รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะปักไม้ไผ่
ประเทศไทยมีแนวชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 3,148.23 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ชายฝั่งรวม 23 จังหวัด ประกอบด้วยชายฝั่งด้านอ่าวไทยคลุมพื้นที่ 17 จังหวัด ยาวประมาณ 2,055 กิโลเมตร และชายฝั่งด้านทะเล อันดามันคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ยาวประมาณ 1,093.43 กิโลเมตร ในปัจจุบันพื้นที่ชายฝั่งทะเลถูกใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น จากกิจกรรมการท่องเที่ยวและนันทนาการ การประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอยู่อาศัยของชุมชนริมทะเล อุตสาหกรรม ท่าเรือ การคมนาคมทางน้ำ เป็นต้น ชายฝั่งทะเลจึงมีความสำคัญในทุกๆ ด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผลกระทบ อันเนื่องมาจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของระบบนิเวศ ทางทะเลและชายฝั่งที่สูญเสียความสมดุล โดยปัจจัยซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งทะเล มาจากกระบวนการทางธรรมชาติและจากกิจกรรมของมนุษย์ ได้แก่ กระแสน้ำขึ้นน้ำลง คลื่นลม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาวะโลกร้อน ผลกระทบของน้ำทะเลสูงขึ้น ความเร็วของทิศทางและ ความแปรปรวนของกระแสน้ำที่ส่งผลให้ตะกอนถูกพัดพาและการรักษาสมดุลธรรมชาติเปลี่ยนแปลง จึงเป็นที่มาของปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนโดยเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหากัดเซาะรุนแรง ซึ่งรัฐบาล ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จึงได้กำหนดให้การกัดเซาะชายฝั่งเป็นหนึ่งในเก้านโยบาย/ยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลที่จะต้องมีการบูรณาการของทุกภาคส่วนและจัดการงบประมาณในเชิงบูรณาการ
โครงการปักไม้ไผ่
วัตถุประสงค์ของโครงการ
- เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้วิธีการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น
- เพื่อลดการสูญเสียชายฝั่งทะเล และเพิ่มพื้นที่บริเวณด้านหลังแนวปักไม้ไผ่
- เพื่อให้ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เกิดการมีส่วนร่วมในการบริหารการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
- เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ป้องกัน และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ให้ชุมชนตระหนักถึงความ สำคัญของระบบนิเวศของชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ให้มีความอุดมสมบูรณ์ปราศจากมลภาวะและก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
- เพื่อเพิ่มปริมาณและเพิ่มประสิทธิภาพของแนวปักไม้ไผ่เป็นแนวชะลอคลื่นป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง และเป็นแนวกันขยะทะเลลดกระแสคลื่น ลดเศษสวะ – ขยะมูลฝอยที่เข้าสู่ฝั่งและป่าชายเลน
- เพื่อลดเศษสวะ – ขยะมูลฝอยที่เข้าป่าชายเลนโดยใช้วิธีการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น
1. โครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยการปักไม้ไผ่และพันธุ์ไม้ป่าชายเลน
ความยาว 1,030 เมตร จำนวนไม้ไผ่ 36,050 ลำ พร้อมป้ายโครงการและบรรทัดวัดตะกอนเลน ณ บ้านพรงสน หมู่ที่ 8 ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ส่งมอบ จังหวัดตราด
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559
2.โครงการปักไม้ไผ่เพื่อลดกระแสคลื่นและลดเศษสวะ – ขยะมูลฝอยที่เข้าป่าชายเลน
ระยะทาง 2,630 เมตร จำนวนไม้ไผ่ 73,640 ลำ ณ บริเวณชายฝั่งทะเล ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ส่งมอบ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560
3. โครงการปักไม้ไผ่ตามแนวชายฝั่ง
ความยาว 600 เมตร ไม้ไผ่จำนวน 6,000 ลำ ณ บริเวณชายฝั่งทะเล ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ส่งมอบ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559
4. โครงการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นจังหวัดระยอง
ณ บริเวณชายฝั่งทะเล หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 7 ตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลงจังหวัดระยอง ระยะทาง 1,000 เมตร และบริเวณชายฝั่งทะเล หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 8 ตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ระยะทาง 2,000 เมตร จำนวนไม้ไผ่ 132,090 ลำ ส่งมอบ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559
5.โครงการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง
ความยาว 1,400 เมตร จำนวนไม้ไผ่ 49,000 ลำ พร้อมป้ายโครงการและบรรทัดวัดตะกอนเลน ณ บ้านเปร็ดใน หมู่ที่ 2 ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด ส่งมอบ จังหวัดตราด โดย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2560
6.โครงการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นจังหวัดระยอง
ความยาว 1,955 เมตร จำนวนไม้ไผ่ 68,425 ลำ ณ หมู่ 7 ตำบลปากน้ำประแสร์ และหมู่ 4 หมู่ 5 ตำบลคลองปูน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ส่งมอบ จังหวัดระยอง โดย สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2560